วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

จิตทัศน์นอสตราดามุส


หลังจากตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ที่สหรัฐอเมริกาถล่มในปี ค.ศ. 2001 โลกของเราก็เปลี่ยนไปจนไม่อาจกลับมาสู่จุดเดิมได้ ทั้งสงครามบุกยึดอิรัก อัฟกานิสถาน การทำลายล้างด้วยอาวุธนิวเคลียร์ อาวุธเคมี อีกทั้งสภาพอากาศที่แปรปรวน เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ หาได้รอดพ้นจากจิตทัศน์ของบุคคลผู้นี้ "นอสตราดามุส"
ใครจะรู้บ้างว่านอสตราดามุสนอกจากเขาจะเป็นโหราจารณ์เอกของโลกแล้ว เขายังเป็นทั้งนักคิด นักสมุนไพร แพทย์ปริญาบัตร นักวิทยาศาสตร์ นอสตราดามุสเดิมชื่อ มิเชล เดอ นอสเตรดัม เกิดในตระกูลของชาร์คและเรมี เดิมตระกูลของเขาเป็นชาวยิวที่ต้องอพยพมาอาศัยอยู่ในฝรั่งเศสจึงถูกเข้ารีตเป็นคริสต์ แต่ภายในบ้านยังคงประกอบพิธีกรรมของชาวยิวอยู่อย่างลับๆ ซึ่งนั้นเป็นการทำให้นอสตราดามุสรู้จักที่จะเอาตัวรอดในสังคม เพราะในสมัยนั้น คำสอนใดที่ขัดต่อศาสนาจะถูกสอบสวนและอาจถูกลงโทษได้ นอสตราดามุสในสมัยเรียนเขาชอบดูดวงให้เพื่อนๆ จนได้รับสมญานามว่า "เจ้าโหรน้อย" และนั้นกลับกลายเป็นทำให้พ่อเขากลุ้มใจที่ลูกชายเบนเข็มไปทางด้านนั้น แต่ปู่ของเขาเข้าใจจึงแนะนำให้เขาเรียนหมอเพราะจะได้ช่วยเหลือคน และสามารถที่จะศึกษาด้านโหราศาสตร์ที่ตนเองจนใจได้ และในที่สุดก็ได้ศึกษาด้านการแพทย์ที่มหาลัยมองเปลีเยร์ เมื่อจบการศึกษา ตอนนั้นฝรั่งเศสได้เกิดโรคระบาด ด้วยความที่เป็นบัญฑิตใหม่ร้อนวิชาจึงได้ตระเวนช่วยออกรักษาคนไข้ และได้แต่งงานกับภรรยาคนแรก มีลูกด้วยกัน ชีวิตในช่วงนี้ของเขาเป็นช่วงที่มีความสุขมาก แต่นั้นนะสิ ชีวิตคนเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ฝรั่งเศสได้เกิดโรคระบาดอีกครั้ง นอสตราดามุสจึงได้ตระเวนออกรักษาผู้คน โดยหารู้ไม่ว่าภัยร้ายกำลังเข้ามาใกล้ครอบครัว วันหนึ่งหลังจากออกไปรักษาคนไข้ กลับมาเจอลูกเมียตนเองนอนป่วย เขาได้ใช้ทุกวิธี เทคนิคทุกอย่างที่เขามี แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตคนที่เขารักที่สุดได้ นอกจากนี้ฝ่ายญาติภรรญษก็ฟ้องร้องเรื่องสมบัติ ชีวิตช่วงนั้นของเขาวุ่นวาย ทำให้เขาหายตัวไปพักนึง และนั่นก็เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาสนใจโหราศาสตร์มากขึ้น วันหนึ่งเขาได้ปรากฏตัวขึ้น และได้ผ่านพระฟรานซิสกลุ่มหนึ่งและหันไปมองพระรูปหนึ่ง ทราบชื่อว่าบราเดอร์เพอเรตติ นอสตรามุสก้มลงกราบบนพื้นที่เปียกแฉะ และพูดสั้นๆว่า "ขอให้ข้าได้มีโอกาสถวายตัว และนมัสการท่านเถิด" และเขายืนยันว่าพระรูปนี้จะได้เป็นองค์สันตะปาปาแห่งนครรัฐวาติกัน คนแถวนั้นต่างก็หัวเราะเพราะใครจะคิดล่ะคนเลี้ยงสุกรจะได้เป็นองค์สันตะปาปา และเหตุการณ์นี้ก็ได้เกิดขึ้นหลังจากจากที่นอสตราดามุสได้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 19 ปี  ฝรั่งเศสก็เกิดโรคระบาดอีกครั้งนอสตราดามุสก็ได้ช่วยเหลือผู้คนและได้แต่งงานใหม่กับหญิงหม้ายฐานะดี กลางวันก็ได้เป็นหมอรักษาคนไข้ แต่พระอาทิตย์ตกดินเขาก็ขึ้นห้องส่วนตัวใต้หลังคาเพื่อศึกษาโหราศาสตร์ และเขาได้เขียนหนังสือคำทำนายเล่มแรก คือ เดอะเซนจูรี โดยเขียนเป็นโคลงสี่แถว เขาเริ่มบทแรกด้วยความมั่นใจว่า "จะมีการค้นพบสิ่งที่หายไป ซ้อนเร้นอยู่หลายศตวรรษ ปาสเตอร์จะถูกเหยียดย่ำเกียรติด้วยข่าวลือ ในขณะเดียวกันก็จะถูกยกย่องให้เป็นมนุษย์กึ่งเทพ ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นเมื่อครบรอบใหญ่ของดวงจันทร์" นั่นก็คือเหตุการณ์ที่ หลุยส์  ปาสเตอร์ ค้นพบจุลชีวไมโครไบโอโลยี ซึ่งในตอนแรกทุกคนหาว่าเขาบ้าแต่เขาก็ได้นำความรู้นี้ไปแก้ปัญหาที่โรงงานไวน์ ทำให้เขาถูกยกย่องว่าเป็นมนุษย์กึ่งเทพ เมื่อคำนวณเวลาครบรอบของดวงจันทร์ก็ตรงกับเหตุการณ์พอดี
                นอกจากนี้ยังมีคำทำนายมากมายที่เขาได้ทำนายไว้เกี่ยวกับมนุษยชาติ ซึ่งหากเรารู้คำทำนายแล้วเราวิตกกังวลมากเกินไป ก็ไม่ดีกับตัวเรา แต่ถ้าหากเรารู้แล้วใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท แค่นี้ชีวิตเราก็จะพบแต่ความสุขที่แท้จริง

โดย : นางสาวกันยารัตน์ ตาดทอง เลขที่ 9

ที่มา :ศาสตราจารย์เจริญ วรรธนะสิน. นอสตราดามุส. ครั้งที่ 25. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ดอกหญ้า 2000, 2554

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น