หลังจากตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ที่สหรัฐอเมริกาถล่มในปี ค.ศ. 2001
โลกของเราก็เปลี่ยนไปจนไม่อาจกลับมาสู่จุดเดิมได้ ทั้งสงครามบุกยึดอิรัก
อัฟกานิสถาน การทำลายล้างด้วยอาวุธนิวเคลียร์ อาวุธเคมี
อีกทั้งสภาพอากาศที่แปรปรวน เหตุการณ์ทั้งหมดนี้
หาได้รอดพ้นจากจิตทัศน์ของบุคคลผู้นี้ "นอสตราดามุส"
ใครจะรู้บ้างว่านอสตราดามุสนอกจากเขาจะเป็นโหราจารณ์เอกของโลกแล้ว
เขายังเป็นทั้งนักคิด นักสมุนไพร แพทย์ปริญาบัตร นักวิทยาศาสตร์
นอสตราดามุสเดิมชื่อ มิเชล เดอ นอสเตรดัม เกิดในตระกูลของชาร์คและเรมี
เดิมตระกูลของเขาเป็นชาวยิวที่ต้องอพยพมาอาศัยอยู่ในฝรั่งเศสจึงถูกเข้ารีตเป็นคริสต์
แต่ภายในบ้านยังคงประกอบพิธีกรรมของชาวยิวอยู่อย่างลับๆ
ซึ่งนั้นเป็นการทำให้นอสตราดามุสรู้จักที่จะเอาตัวรอดในสังคม เพราะในสมัยนั้น
คำสอนใดที่ขัดต่อศาสนาจะถูกสอบสวนและอาจถูกลงโทษได้
นอสตราดามุสในสมัยเรียนเขาชอบดูดวงให้เพื่อนๆ จนได้รับสมญานามว่า
"เจ้าโหรน้อย"
และนั้นกลับกลายเป็นทำให้พ่อเขากลุ้มใจที่ลูกชายเบนเข็มไปทางด้านนั้น
แต่ปู่ของเขาเข้าใจจึงแนะนำให้เขาเรียนหมอเพราะจะได้ช่วยเหลือคน
และสามารถที่จะศึกษาด้านโหราศาสตร์ที่ตนเองจนใจได้
และในที่สุดก็ได้ศึกษาด้านการแพทย์ที่มหาลัยมองเปลีเยร์ เมื่อจบการศึกษา
ตอนนั้นฝรั่งเศสได้เกิดโรคระบาด
ด้วยความที่เป็นบัญฑิตใหม่ร้อนวิชาจึงได้ตระเวนช่วยออกรักษาคนไข้
และได้แต่งงานกับภรรยาคนแรก มีลูกด้วยกัน ชีวิตในช่วงนี้ของเขาเป็นช่วงที่มีความสุขมาก
แต่นั้นนะสิ ชีวิตคนเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ฝรั่งเศสได้เกิดโรคระบาดอีกครั้ง
นอสตราดามุสจึงได้ตระเวนออกรักษาผู้คน
โดยหารู้ไม่ว่าภัยร้ายกำลังเข้ามาใกล้ครอบครัว วันหนึ่งหลังจากออกไปรักษาคนไข้
กลับมาเจอลูกเมียตนเองนอนป่วย เขาได้ใช้ทุกวิธี เทคนิคทุกอย่างที่เขามี
แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตคนที่เขารักที่สุดได้
นอกจากนี้ฝ่ายญาติภรรญษก็ฟ้องร้องเรื่องสมบัติ ชีวิตช่วงนั้นของเขาวุ่นวาย
ทำให้เขาหายตัวไปพักนึง และนั่นก็เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาสนใจโหราศาสตร์มากขึ้น วันหนึ่งเขาได้ปรากฏตัวขึ้น
และได้ผ่านพระฟรานซิสกลุ่มหนึ่งและหันไปมองพระรูปหนึ่ง
ทราบชื่อว่าบราเดอร์เพอเรตติ นอสตรามุสก้มลงกราบบนพื้นที่เปียกแฉะ และพูดสั้นๆว่า
"ขอให้ข้าได้มีโอกาสถวายตัว และนมัสการท่านเถิด"
และเขายืนยันว่าพระรูปนี้จะได้เป็นองค์สันตะปาปาแห่งนครรัฐวาติกัน
คนแถวนั้นต่างก็หัวเราะเพราะใครจะคิดล่ะคนเลี้ยงสุกรจะได้เป็นองค์สันตะปาปา
และเหตุการณ์นี้ก็ได้เกิดขึ้นหลังจากจากที่นอสตราดามุสได้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 19
ปี ฝรั่งเศสก็เกิดโรคระบาดอีกครั้งนอสตราดามุสก็ได้ช่วยเหลือผู้คนและได้แต่งงานใหม่กับหญิงหม้ายฐานะดี
กลางวันก็ได้เป็นหมอรักษาคนไข้ แต่พระอาทิตย์ตกดินเขาก็ขึ้นห้องส่วนตัวใต้หลังคาเพื่อศึกษาโหราศาสตร์
และเขาได้เขียนหนังสือคำทำนายเล่มแรก คือ เดอะเซนจูรี โดยเขียนเป็นโคลงสี่แถว
เขาเริ่มบทแรกด้วยความมั่นใจว่า "จะมีการค้นพบสิ่งที่หายไป
ซ้อนเร้นอยู่หลายศตวรรษ ปาสเตอร์จะถูกเหยียดย่ำเกียรติด้วยข่าวลือ
ในขณะเดียวกันก็จะถูกยกย่องให้เป็นมนุษย์กึ่งเทพ
ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นเมื่อครบรอบใหญ่ของดวงจันทร์" นั่นก็คือเหตุการณ์ที่
หลุยส์ ปาสเตอร์ ค้นพบจุลชีวไมโครไบโอโลยี
ซึ่งในตอนแรกทุกคนหาว่าเขาบ้าแต่เขาก็ได้นำความรู้นี้ไปแก้ปัญหาที่โรงงานไวน์
ทำให้เขาถูกยกย่องว่าเป็นมนุษย์กึ่งเทพ
เมื่อคำนวณเวลาครบรอบของดวงจันทร์ก็ตรงกับเหตุการณ์พอดี
นอกจากนี้ยังมีคำทำนายมากมายที่เขาได้ทำนายไว้เกี่ยวกับมนุษยชาติ
ซึ่งหากเรารู้คำทำนายแล้วเราวิตกกังวลมากเกินไป ก็ไม่ดีกับตัวเรา แต่ถ้าหากเรารู้แล้วใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท
แค่นี้ชีวิตเราก็จะพบแต่ความสุขที่แท้จริง
โดย : นางสาวกันยารัตน์
ตาดทอง เลขที่ 9
ที่มา :ศาสตราจารย์เจริญ วรรธนะสิน. นอสตราดามุส. ครั้งที่ 25.
กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ดอกหญ้า 2000, 2554
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น